myHealthWorld myHealthThink myHealthPeek myHealthMob License AgreementPrivacy PolicySupport Center
Product
myHealthFirst myHealthCare myHealthMob myHealthThink myHealthRoom Plug Tablet
Service
Smart Hospital Corporate Wellness Home Monitoring
Download
myHealthFirst APK
Contact
Login
วิธีแก้ง่วงยามบ่าย ง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ 

           แม้ช่วงเช้า ๆ เราจะตื่นมาด้วยความลั้ลลาสดชื่นขนาดไหน แต่พอทานอาหารเที่ยงเสร็จปุ๊บ ตกบ่ายปั๊บก็เริ่มตาปรือ หาวแล้วหาวอีก แถมความง่วงยังมาพร้อมกับความมึน คิดงานสำคัญอะไรก็ไม่ออก เรียนก็ไม่รู้เรื่อง จะปล่อยให้ความง่วงเหงาหาวนอนในตอนกลางวัน มาทำลายประสิทธิภาพการเรียนและการทำงานไม่ได้เชียว ! อย่างนี้ต้องหาวิธีปราบอาการง่วงตอนกลางวันแบบด่วนจี๋ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งกาแฟ ให้เสียสุขภาพกันนะค่ะ 

           นอนหลับตอนกลางคืนให้เต็มอิ่ม เเค่คุณนอนหลับให้เพียงพอ ให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ ก็จะได้ไม่มานั่งหาวตอนกลางวันไงล่ะ 

           ออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้า แสงแดดตอนเช้า ๆ ก่อน 9 โมง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อของคุณไปสู่สมองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกตื่น และสดชื่นต่อเนื่องตลอดทั้งวันนั่นเอง 

           จิบน้ำระหว่างวัน   น้ำ" เป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการแก้ง่วงได้เหมือนกัน อย่างที่มีคำแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเลย และต้องดื่มแบบจิบ ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะการที่ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ชาร์จพลังงานในตัวให้เพิ่มขึ้นด้วย 

           ขอเวลางีบสัก 10-15 นาที  คนที่งีบหลับในตอนกลางวันจะมีความจำดีขึ้น รู้สึกตื่นตัวขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำอะไรต่ออะไรได้ดีขึ้นด้วย แต่ไม่ควรนอนเกินครึ่งชั่วโมงไม่เช่นนั้นคุณอาจจะหลับลึกไปเลยแล้วตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง แทนที่จะสดชื่นยามบ่าย กลายเป็นง่วงหนักกว่าเดิมอีกนะค่ะ 

           เลี่ยงคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ ในมื้อเที่ยง  ถ้ามื้อเที่ยงที่ผ่านมา เราจัดหนักจัดเต็มกับอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ก็อาจทำให้ช่วงบ่าย ๆ มีอาการง่วงซึมได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่หนักแป้ง หนักน้ำตาล จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น เพื่อเร่งย่อยอาหาร ทำให้เราง่วงซึม เฉื่อยชา หลังจากทานอาหารแล้วนั่นเอง 

           บอกลาของหวาน  ของหวานก็ช่วยทำให้เรากระชุ่มกระชวยได้อยู่หรอกค่ะ แต่แค่แป๊บเดียวเองนะ เพราะเมื่อเราทานของหวานซึ่งเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน จะไปทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ทีนี้ น้ำตาลในเลือดเราก็จะสูงขึ้นไปด้วย ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกง่วงนอนตามมา เพราะฉะนั้น บอกลาของหวานเลย ถ้าไม่อยากเผลอหลับไปในยามบ่าย 

           ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย  อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันตาเห็นก็คือการยืดเส้นยืดสายนี่แหละจ้า ถ้านั่งทำงานอยู่หลายชั่วโมงแล้วง่วงจัด ก็ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาซะบ้าง จะลุกไปยืนคุยกับเพื่อนบ้าง ขึ้นลงบันไดไป ๆ มา ๆ หรือเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วแอบยืดเส้นยืดสายบ้างให้ร่างกายได้ตื่นตัวหน่อยก็ช่วยได้นะค่ะ 

           ฟังเพลงกันเถอะ  การฟังเพลงจะช่วยทำให้เรามีสมาธิ และเพิ่มความตื่นตัวขึ้นด้วย แต่ต้องฟังกับหูฟังเท่านั้น อย่าเปิดผ่านลำโพง ส่วนจะเลือกฟังเพลงแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเองค่ะว่าเพลงแบบไหนจะช่วยทำให้เราตื่นตัวได้มากที่สุด 

           ฝึกลมหายใจ  ถ้าไม่รู้จะแก้ง่วงอย่างไรดี งั้นลองมาฝึกลมหายใจปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้นก็แล้วกัน เริ่มจากนั่งหลับตา พยายามหายใจเข้าออกถี่ ๆ ทางจมูก ถ้าทำได้สักวินาทีละ 3 รอบก็จะดีมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เอาเท่าที่ไหวค่ะ ทำไปจนกระทั่งเรารู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอ เหนือกระดูกไหปลาร้า และที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลัง ตื่นตัว แก้ง่วงได้ดีนักแล 

           ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายมีแต่ประโยชน์ แล้วก็ยังช่วยแก้ง่วงยามบ่ายได้เหมือนกันนะ เพราะการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นประจำ จะช่วยเติมพลังให้ร่างกาย เหมือนมีไฟตลอดเวลา แถมยังปลุกความสดชื่นให้สมองอีกด้วย 

           คราวนี้ เมื่อคุณรู้สึกง่วงนอนยามบ่าย ก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปที่เครื่องทำกาแฟเพื่อชงกาแฟเข้มๆ สักแก้วให้ตัวเองอีกต่อไป ลองเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้สลัดความง่วงกันดูนะค่ะ เพื่อให้วันของคุณดำเนินไปได้ด้วยดีตลอดทั้งวัน 
 

โพสต์เมื่อ : 30/05/2018
บทความที่คุณอาจสนใจ